[รีวิว] All-new Suzuki SWIFT 2018 สไตล์เด่นบนเส้นทางที่แตกต่าง

หลังจากที่ได้เปิดตัวในตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการไปแล้ว ในวันนี้เรา Thaicarlover จะมารีวิว All New Suzuki SWIFT 2018 รุ่น GLX-Navi ซึ่งเป็นตัวท็อป โดยอีโคคาร์รุ่นนี้ได้เดินทางมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 3 มาพร้อมการออกแบบภายใต้แนวคิด INNOVATION Fun & Sporty สไตล์เด่นบนเส้นทางที่แตกต่าง โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ DUALJET และแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไรตามไปดูกันครับ

เริ่มต้นกันที่ภายนอก All New Suzuki SWIFT (ออลนิว ซูซูกิ สวิฟท์ 2018) ซึ่งได้มีการแปลงโฉม ให้มีความโฉบเฉี่ยว ดุดัน มีเอกลักษณ์ ให้อารมณ์สปอร์ตที่มากขึ้น แตกต่างไปจาก Suzuki SWIFT 2012 รุ่นเดิม อย่างเห็นได้ชัดเจน

การออกแบบกระจังหน้า ตกแต่งด้วยการใช้เส้นสีแดงที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่น พร้อมกันนั้นยังมีไฟหน้า LED แบบโปรเจคเตอร์ กับ Daytime Running Light (DRL) เพิ่มความหล่อ และความมั่นใจในการขับขี่ด้วยล้ออะลูมิเนียมอัลลอย ขนาด 16 นิ้ว ยาง Bridgestone Ecopia EP300 185/55R16 มือจับเปิด-ปิดประตูหลังถูกซ่อนไว้ตรงกาบประตูบนเรียบเนียนไปกับตัวรถ อีกทั้งไฟหลัง LED ที่มีการออกแบบใหม่

เมื่อเข้าไปยังภายในห้องโดยสารของ All New Suzuki SWIFT 2018 จะสังเกตเห็นถึงการออกแบบใหม่ด้วยกลิ่นอายของความสปอร์ต ไม่ว่าจะเป็น คอนโซลกลางด้านหน้าที่ถูกปรับเพื่อความสะดวกสบายต่อผู้ขับขี่ มาตรวัดสไตล์สปอร์ตเน้นด้วยเส้นสายสีแดง ฐานและหัวเกียร์หุ้มหนัง หน้าจอแสดงผลแบบ LCD พวงมาลัยทรง D-shape แบบใหม่ และสามารถปรับได้ถึง 4 ทิศทาง

พร้อมกันนั้นยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก อย่าง ปุ่มควบคุมระบบต่างๆ มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติที่ง่ายต่อการใช้งานบนจอ LCD สะดวกสบายด้วยกุญแจระบบ Keyless Entry สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยปุ่ม Keyless Push Start

นอกเหนือไปจากนี้ All New Suzuki SWIFT 2018 ยังสามารถเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านระบบ Suzuki Smart Connect ที่รองรับ Apple CarPlay บนหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธได้อีกด้วย

เครื่องเสียงที่ติดมากับ All New Suzuki SWIFT 2018 เมื่อนำไปเทียบกับอีโคคาร์ทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

ในส่วนของพื้นที่ภายในห้องโดยสาร จะมีความกว้างขวางที่มากขึ้นกว่าเดิม และเบาะนั่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายต่อการเดินทาง สามารถปรับได้แบบ 60:40

เมื่อเปรียบเทียบ All New Suzuki SWIFT 2018 กับรุ่นก่อน การเปลี่ยนแปลงภายในสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ คอนโซลหน้าในรุ่นเก่าที่ยื่นออกมาโค้งรับกับผู้ขับขี่ แต่ในส่วน Suzuki SWIFT รุ่นใหม่มีการปรับระยะการยื่นของคอนโซลหน้าลง อีกทั้งมิติตัวถังในด้านความยาวฐานล้อที่เพิ่ม 20 มม. ความกว้างที่เพิ่ม 40 มม.

เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า หลังจากได้ทำการทดสอบขับขี่ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ 2 วัน รู้สึกได้ถึงเบาะที่มีขนาดกว้างขึ้น และนั่งสบาย

ห้องโดยสารตอนหลัง ผู้โดยสารที่มีความสูง 182. ซ.ม. ก็สามารถนั่งได้ แบบไม่รู้สึกว่าเบียดขา หรือขาติด อีกทั้งพื้นที่ยังถูกปรับให้กว้างขึ้น เบาะยังเอนลาดกว่าเดิม โดยรวมพื้นที่ด้านหลังนั่งสบายกว่ารุ่นก่อน แต่หากเปรียบเทียบกับอีโคคาร์ ซีดานอาจจะไม่ดีเท่า

จุดที่ยังไม่เป็นที่ถูกใจมากนักอาจจะเป็นเรื่องของไฟในห้องโดยสาร จากรุ่นก่อนจะติดตั้งอยู่กลางห้องโดยสาร แต่ Suzuki Swift รุ่นใหม่ได้ปรับไฟในห้องโดยสารมาติดตั้งอยู่ตรงบริเวณกระจกมองหลัง อาจจะส่งผลให้ห้องโดยสารมีแสงสว่างไม่เพียงพอ หากต้องการใช้ไฟในเวลากลางคืน

พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังสามารถใช้งานได้อย่างเต็ม ด้วยการเพิ่มขนาดความจุจากรุ่นเดิมอีก 54 ลิตร กลายเป็น 265 ลิตร

สำหรับการออกแบบบนแพลตฟอร์มใหม่อย่าง HEARTECT ทำให้มีโครงสร้างที่แข็งแรงมากขึ้น ตัวถังมีน้ำหนักน้อยลง ความสูงตัวถังลดลง แต่ความกว้างเพิ่มขึ้น และด้วยการใช้แพลตฟอร์มใหม่สามารถลดน้ำหนักได้สูงสุดถึง 85 กิโลกรัม หรือให้น้ำหนักทั้งหมด 875-910 กก. นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังทำให้มิติตัวถังของ All New Suzuki SWIFT เปลี่ยนไปจากรุ่นก่อนดังนี้

  • ความยาวฐานล้อ 2,450 มม. (+20 มม.)
  • ความยาว 3,840 มม. (-10 มม.)
  • ความกว้าง 1,735 มม. (+40 มม.)
  • ความสูง 1,495 มม. (-15 มม.)
  • ความกว้างช่วงล้อหน้า 1,520 มม. (+30 มม.)
  • ความกว้างช่วงล้อหลัง 1,525 มม. (+30 มม.)

เทคโนโลยีความปลอดภัยของ Suzuki SWIFT 2018 ยังเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ และเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ได้แก่

1. ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ได้แก่คู่หน้า ด้านข้าง และม่านข้าง

2. ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program – ESP)

3. ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Hold Control)

4. ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System)

5. ระบบกุญแจนิรภัย (Immobilizer)

6. ระบบเบรก ABS/ EBD

สำหรับพลังขับเคลื่อนจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ รหัส K12M ที่พร้อมเทคโนโลยี DUALJET ด้วยการใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร กำลัง 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที เชื่อมต่อเข้ากับเกียร์อัตโนมัติ CVT 6 สปีด ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่า 23.3 กม./ลิตร

สุดท้ายยังมีระบบช่วยดับเครื่องยนต์ Idling Stop ที่ช่วยลดการใช้น้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง และควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติด้วย Cruise Control

แม้เครื่องยนต์ใหม่จะมีกำลังลดลงจากเจนฯ ก่อน 8 แรงม้า แต่ All New Suzuki Swift 2018 ได้ยกระดับมาตรฐานการออกแบบให้ผ่านมาตรฐานอีโค คาร์เฟส 2 ซึ่งต้องเป็นไปตามมาตรฐาน EURO 5 คือปริมาณคาร์บอนมอนออกไซด์ที่ปล่อยออกมาต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับ 100 กรัม/กม. และต้องมีมาตรฐานการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่า 23 กม./ลิตร และทำได้ดีกว่า Suzuki Swift 2012 ที่มีการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 20/กม./ลิตร ผ่านตามมาตรฐาน EURO4 (ปล่อยคาร์บอนมอนออกไซด์น้อยกว่าหรือเท่ากับ 120 กรัม/กม.)

ในส่วนอัตราเร่งของ Suzuki Swift เกียร์อัตโนมัติ รุ่นใหม่นี้ ทำได้ไม่ด้อยกว่ารุ่นก่อนเลย แถมยังจะทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนด้วยซ้ำ โดยเฉพาะความเร็วในช่วงต้น – กลาง หรือความเร็วที่ 40 กม./ชม.ขึ้นไป

ช่วงล่าง All New Suzuki SWIFT 2018 จะเหมือนกับเจนฯ ก่อน แต่ก็ถูกออกแบบมาให้เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อสมรรถนะที่สูงสุด โดยระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมคอยล์สปริง จุดยึดที่ออกแบบใหม่เพื่อความมั่นคง ศูนย์แบริ่งล้อก็ได้ปรับปรุงใหม่

ส่วนกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบแบบทอร์ชั่นบีม พร้อมคอยล์สปริง ที่ออกแบบใหม่ อีกทั้งคานเหล็กถูกออกแบบ และถูกพัฒนาขึ้นให้ดีขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อลดอาการบิดตัวเมื่อเข้าโค้ง ซึ่งแข็งแกร่ง และดีขึ้นกว่ากว่ารุ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็นให้อารมณ์ขับขี่นุ่มนวล ควบคุมง่ายขึ้น ควบคุมรถได้แม่นยำขึ้น และทรงตัวเข้าโค้งได้ดีเยี่ยม

สรุปจุดเด่นของ Suzuki Swift 2018 เมื่อเปรียบเทียบกับ Suzuki SWIFT 2012

1. ช่วงล่างหนึบ เกาะถนน แม้จะขับขี่ด้วยความเร็วแต่ก็ให้ความมั่นใจ

2. แม้จะใช้ความเร็ว 120 กม./ชม. แต่พวงมาลัยไฟฟ้าก็ทำงานได้ดี และไม่มีอาการไว

3. แพลตฟอร์มใหม่ น้ำหนักเบา แข็งแกร่ง ให้สมรรถนะการขับขี่ประหยัดน้ำมันขึ้น

4. เครื่องยนต์ใหม่ มาตรฐานยูโร 5 ประหยัดน้ำมันขึ้น มีระบบ Idling Stop/Cruise Control

5. ขนาดและมิติตัวถังเพิ่มขึ้น ทำให้มีพื้นที่ใช้งานมากกว่ารุ่นก่อน

6. กระจังหน้าใหม่ ไฟหน้า/ท้ายแบบ LED ไฟ DRL และมือจับเปิด-ปิดประตูหลัง

7. พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง ถุงลม 6 ตำแหน่ง

สี และราคา Suzuki SWIFT 2018 มีให้เลือกหลายรุ่นหลายราคา และยังมีสีให้เลือกถึง 6 สีได้แก่

  • สีแดง Ablaze Red Pearl
  • สีเงิน Star Silver Metallic
  • สีเทา Mineral Gray Metallic
  • สีดำ Super Black Pear

นอกจากนี้ยังมีสีน้ำเงิน Speedy Blue Metallic และ สีขาว Pure White Pearl เพิ่มเข้ามาเป็นตัวเลือกใหม่อีกด้วย

สำหรับราคามีให้เลือกอยู่ 4 รุ่นย่อยได้แก่

1. Suzuki SWIFT รุ่น GA CVT ราคา 499,000 บาท

2. Suzuki SWIFT รุ่น GL CVT ราคา 536,000 บาท

3. Suzuki SWIFT รุ่น GLX CVT ราคา 609,000 บาท

4. Suzuki SWIFT รุ่น GLX-Navi CVT ราคา 629,000 บาท

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมองหารถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันเพื่อการขับขี่ในเมือง และคนที่กำลังมองหาสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม อีโค คาร์อย่าง All New Suzuki Swift ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจนะครับ และสามารถเข้าไปทดลองขับกันได้ที่โชว์รูมซูซูกิ ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือติดต่อได้ที่ www.suzuki.co.th

เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่น ๆ

ได้ที่ www.suzukikorat.com

ติดต่อฝ่ายขาย

ผู้จัดการสาขา สี่แยกไฟฉาย  TEL : 083-1881223

ผู้จัดการสาขา บายพาสโคราช TEL : 081-8166455

ผู้จัดการสาขา โคราชคลังออโตโมบิลส์ TEL : 081-8166455

ผู้จัดการสาขา ปากช่อง TEL : 081-5934561

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *