[Test Drive] All-New Suzuki Swift เครื่องใหม่ เกียร์สมูท ขับดีกว่าเดิม เพิ่มเติมคือดิสก์เบรก 4 ล้อ !!

ทดสอบ ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นใหม่ Test Drive All New Suzuki Swift

All New Suzuki Swift Test Drive in Thailand

ถือว่าเป็นรถยนต์ที่สร้างสีสันให้กับตลาดรถอีโคคาร์ประเทศไทยเป็นอย่างมาก สำหรับ Suzuki Swift รุ่นก่อนหน้านี้ ที่ได้สร้างประวัติการณ์ยอดจอง และยอดขดายถล่มทลายจนทำให้ลูกค้าที่จองรถยนต์ต้องรอนานกันหลายเดือน จนทำให้สามารถขึ้นเป็นรถยนต์อีโคคาร์ขายดีอันดับหนึ่งมาหลายปี จนมีรถยนต์จากแบรนด์อื่นๆ เดินหน้าทยอยเปิดตัวกันหลากหลายรุ่น

ครั้งนี้เค้ากลับมาอีกครั้ง พร้อมการอัพเกรดใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ใหม่ สดใส และสปอร์ตสวยงามมากขึ้น ขุมพลังลูกใหม่ เกียร์ลูกใหม่ รวมไปถึงแพลตฟอร์มการออกแบบ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถใส่ไปในรถยนต์คันเล็กๆ คันนี้แน่นคัน จนต้องบอกว่า “เล็กพริกขี้หนู” ก็ไม่อายปาก

กับ All-New Suzuki Swift รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ ในประเทศไทยในช่วงวันที่ 8 กพ. 2561 ที่ผ่านมา วันนี้ แอดโค้ก ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมทริปทดสอบ โดยบินมาทดสอบไกลกันถึงเชียงใหม่เลยทีเดียว เนื่องจากเส้นทางที่จะได้วิ่งทดสอบ มีหลากหลาย ได้ทดสอบทั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ใหม่ ระบบช่วงล่าง อัตราเร่ง กันแบบจัดเต็ม ทั้งทางตรง ทางโค้ง

รูปลักษณ์ใหม่ สปอร์ต กระชับ สดใหม่มากขึ้น

เริ่มต้นกันที่รูปลักษณ์ภายนอกกันก่อน การออกแบบเส้นสาย และทรวดทรงรถยนต์โดยรวมยังมีสไตล์และคอนเซปต์รุ่นก่อนหน้า แต่มีการเปลี่ยนแปลงมิติตัวถังใหม่ทั้งหมด รวมไปถึงแพลตฟอร์มของรถยนต์ใหม่อย่าง Heartech ที่เลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาลง แต่แข็งแกร่งมากขึ้น รวมไปถึงลักษณ์โครงสร้างตัวถังโดยรวมที่เตี้ยลงแต่กว้างขึ้น

มิติตัวถังใหม่จะอยู่ที่ ยาว x กว้าง x สูง = 1,735 x 3,840 x 1,495 มิลลิเมตร / ระยะฐานล้อ : 2,450 มิลลิเมตร / ความสูงใต้ท้องรถ จะอยู่ที่ 120 มิลลิเมตร และน้ำหนักตัวถังรถยนต์ 875-910 กิโลกรัม ซึ่งหลังคาเตี้ยลง (-15 มม.) ความยาวรวมสั้นลง (-10 มม.) ตัวถังรถกว้างขึ้น (+40 มม.) ระยะฐานล้อยาวขึ้น (+20 มม.) น้ำหนักลดลง หากเทียบกันกับ Swift รุ่นก่อนหน้า

เริ่มต้นกันที่ด้านหน้า All New Swift มาพร้อมชุดโคมไฟหน้าแบบ Projector LED สามารถปรับสูง-ต่ำได้ พร้อมไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์มาในโคมจากโรงงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เฉพาะรุ่น GLX, GLX NAVI) น่าจะถูกอกถูกใจแฟนๆ ที่รอคอยมานาน กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ยังมีกลิ่นอายรุ่นก่อนหน้า แต่มีขนาดที่เล็กลงและสปอร์ตมากขึ้น พร้อมตกแต่งด้วยเส้นสายสีแดงตัดกับสีตัวถังรถยนต์ (ที่ไม่ใช่สีแดง)

ถัดมากับชุดไฟตัดหมอกยังคงเป็นไฟตัดหมอกแบบไฟสีเหลืองเหมือนรถยนต์รุ่นปรกติทั่วไป รูปลักษณ์โดยรวมด้านหน้ามีความสปอร์ตมากขึ้น สังเกตุได้จากเส้นสายของฝากระโปรงและด้านข้างรถยนต์ ที่มีความชัดเจน ฝากระโปรงก็มีความแบนราบมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า

ล้อรถยนต์จะมี 2 ตัวเลือก คือล้อกระทะพร้อมฝาครอบ สเปค 175/65R15 สำหรับรุ่น GA และ GL และล้ออัลลอยด์ลวดลายใหม่ สเปค 185/55R16 สำหรับรุ่น GLX และ GLX Navi และสิ่งที่แปลกตาไปอีกอย่างคือ มือจับเปิดประตูสำหรับประตูหลัง ที่ย้ายมาอยู่บริเวณเสา C ทำให้ New Swift มีความคล้ายรถคูเป้ หรือ 2 ประตู มากขึ้น และเป็นการออกแบบประตูที่ค่อนข้างนิยมสามารถเห็นได้ในหลายๆ รุ่นในบ้านเรา

ในส่วนด้านท้าย เส้นสายรถยนต์ช่วยขับให้มีความเหลี่ยมสันมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงชุดโคมไฟท้ายที่มาแบบ LED และมีความเหลี่ยมมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า แต่ก็ยังคงมีกลิ่นอายการออกแบบของรุ่นเก่าเช่นเดียวกัน ความจุของฝากระโปรงท้ายมีขนาด 265 ลิตร เยอะขึ้น 58 ลิตร สามาพับเบาะหลังได้แบบ 60:40

โดยรวมความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่ารูปลักษณ์ของ New Swift มีความสปอร์ต และมีเส้นสายที่สวยงามมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน รวมไปถึงออพชั่นและอุปกรณ์ต่างๆ ก็มีในสิ่งที่ควรจะมี โดยรวมค่อนข้างโอเคกับราคาค่าตัว

ภายในออกแบบลงตัวและมีความสปอร์ตแอบซิ่งให้เห็นอยู่เล็กๆ

นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่มีความสปอร์ตกว่ารุ่นก่อนแล้ว ภายในก็ไม่แพ้กันแต่อย่างใด เริ่มต้นกันที่แผงคอนโซลหน้ากับการออกแบบใหม่ทั้งหมด แม้วัสดุจะยังคงเป็นพลาสติกขึ้นรูปทั้งหมด แต่ความตั้งใจในการออกแบบแสดงให้เห็นถึงความสปอร์ตที่แอบแฝงอยู่เล็กๆ น้อยๆ ในทุกการออกแบบ

แผงคอนโซล 2 ชั้น โทนดำ ตัดด้วยเส้นสายของแผงพลาสติกสีขาว ช่องแอร์ด้านข้างมีขนาดเล็กลง และในส่วนช่องแอร์กลางพถูกเปลี่ยนมาเป็นแบบวงกลมตามสมัยนิยม จอทัชสกรีนกลางขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay ที่ค่อนข้างสมูทใช้งานง่ายพร้อม Navi สำหรับรุ่น GLX-Navi

ถัดลงมาจะพบกับแผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบวงกลม 3 วง การออกแบบในส่วนนี้ทำค่อนข้างดี แม้จะเป็นแอร์ Auto แต่ก็ยังมีสไตล์การออกแบบเหมือนแอร์รถสปอร์ตที่ต้องใช้มือหมุน วงซ้ายปรับความแรงของแอร์ วงกลางเป็นจอแสดงอุณหภูมิ และฟังก์ชั่นที่ใช้งานต่างๆ และปรับอุณหภูมิองศาแอร์ได้ทางด้านวงซ้าย (แถมฮีตเตอร์มาให้ซะด้วย)

ถัดลงมาจะพบกับช่องวางของเล็กๆ พร้อมช่อง USB ช่องไฟขนาด 12V และช่องวางแก้วคู่ที่สามารถวางแก้วขนาดเล็กๆ หรือขวดน้ำเล็กๆ ได้ ส่วนที่ว้าวและแปลกตาไปคงจะเป็นในส่วนค็อกพิท ที่เปลี่ยนไปมากมายก่ายกองทีเดียว เริ่มต้นกันที่ ชุดมาตรวัด

ฮูดแผงมาตรวัดออกแบบ 2 ชั้น พร้อมจอแสดงผลแบบวงกลมสไตล์รถสปอร์ต การดีไซน์ทำได้ค่อนข้างดี ภายในมาตรวัดมีการตกแต่งด้วยเส้นสายสีแดงตามขอบด้านบน และตามวงของหน้าจอมาตรวัด จอกลางแสดงทริปการขับขี่ จอแสดงอัตราบริโภคน้ำมัน และฟังก์ชั่นต่างๆ ตามแบบฉบับรถยนต์ทั่วไป

พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น แบบ 3 ก้าน ท้ายตัด ทำได้ดีทีเดียวฟังก์ชั่นการใช้งานครบๆ ไม่ว่าจะเป็นปุ่มควบคุมชุดเครื่องเสียง ปุ่มควบคุม ระบบบลูทูธ ปุ่มควบคุมระบบ cruise control ก็มีมาให้โดยสามารถควบคุมได้บริเวณด้านขวาของพวงมาลัย ในส่วนเกียร์ยังมีเค้าโครงเดิมของรุ่นก่อนหน้าแต่ก็มีการตกแต่งเพิ่มเติมลวดลายเปียโนแบล็คบริเวณคันเกียร์พร้อมโหมด S ที่กดได้บริเวณข้างหัวเกียร์

เบาะดีไซน์ใหม่ เพิ่มเติมความยาวของปีกข้างเพื่อให้การนั่งขับขี่และนั่งโดยสารมีความกระชับและลดแรงโยนระหว่างเข้าโค้ง แต่ยังคงเป็นเบาะผ้า และปรับด้วยมือทั้งหมดอยู่แม้จะเป็นรุ่นท็อปสุด GLX-Navi ก็ตาม ในส่วนห้องโดยสารโดยรวมมีความโปร่งกว่ารุ่นก่อน แม้ความสูงหลังคาจะลดลง แต่ได้เรื่องความกว้าง และแพลตฟอร์มโครงสร้างใหม่ ที่ทำให้รถโปร่งนั่งสบายขึ้น

เบาะนั่งหลังมีการปรับองศาให้มีความชันน้อยลงกว่าเบาะนั่งหลังของรุ่นก่อน ที่หลายคนต่างบ่นว่ามีความชัดเกินไป ทำให้นั่งไม่สบาย รุ่นใหม่มีองศาที่เอนมากขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่ได้มากมายเท่าไรนัก และหมอนรองคอยังคงดันหัวเหมือนรุ่นก่อนหน้า

หรือใครอยากชมรอบคันภายใน ภายนอกแบบเพลิน เชิญชมได้เลยด้านล่างครับ

ขุมพลังใหม่ 1.2 ลิตร หัวฉีดคู่ แรงม้าลด แรงบิดลด แต่อัตราเร่ง และสมรรถนะไม่ต่างจากรุ่นเก่า เกียร์ CVT สมูทขึ้น ช่วงล่างดีขึ้น

New Swift รุ่นใหม่มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมด เครื่องยนต์รหัส K12M 4 สูบ ความจุ 1,197 ลิตร (1.2 ลิตร) พร้อมเทคโนโลยี Dual JET หัวฉีดคู่ ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที รองรับการเติมน้ำมัน E20 พร้อมเกียร์ CVT ลูกใหม่ ที่มีความสมูทในการเปลี่ยนมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนจนเห็นได้ชัด

อย่างที่กล่าวไปว่าแม้จะมีขนาดความจุที่เล็กลง รุ่นก่อนหน้า 1.25 แรงม้าน้อยลง 9 แรงม้า แรงบิดน้อยลง 10 นิวตันเมตร แต่หลังจากที่ได้ทดสอบอัตราการเร่งไม่ได้แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าเท่าไรนัก แอบจะมีแรงบิดและการเร่งที่ดีกว่าเล็กน้อยด้วยซ้ำ อาจจะเป็นผลมาจากน้ำหนักตัวถังรวมที่เบาลงกว่ารุ่นเก่า

ด้านเกียร์ CVT ก็เป็นลูกใหม่ทั้งหมด การเซตต่างๆ ทำมาได้ค่อนข้างดีทีเกียว แม้จะขับขี่แบบโหมดปรกติ หรือโหมด S การขับขี่ทำได้ค่อนข้างสมูทจนไม่รู้สึกได้ถึงรอยต่อและแรงกระแทกเหมือนรุ่นเก่า ซึ่งนับว่าประทับใจค่อนข้างมากทีเดียว ในส่วนช่วงล่างถูกปรับเซ็ตมาใหม่ทั้งหมด

หากใครจับฟีลการขับขี่รุ่นก่อนได้ รุ่นนี้มีความหนึบ กระขับมากขึ้น สมกับสไตล์การออกแบบที่เน้นความสปอร์ต และอาจจะด้วยทีระยะความสูงของตัวถังรถยนต์เตี้ยลง ความแบนที่มากขึ้น ทำให้การเข้าโค้ง การทำความเร็วต่างๆ ทำได้มั่นใจมากขึ้น และขับสนุกทีเดียว พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า น้ำหนักยังคล้ายๆ รุ่นก่อนหน้า แต่ถูกเซ็ตให้มีความคม ระยะฟรีน้อยกว่าเดิม แต่ยังขับง่ายและน้ำหนักเบาเมื่อใช้ความเร็วต่ำเช่นเคย

ออพชั่นแน่นๆ อีโคคาร์อะไรมีทั้ง แอร์แบ็ก 6 ลูก, ABS, EBD, ESP, Hill Hold, TCS และเบรกแบบ ดิสเบรก 4 ล้อ !!

นอกจากการขับขี่จะเน้นความสนุกสนาน กระชับ และมั่นใจขึ้นแล้ว ด้านระบบความปลอดภัยก็จัดมาแบบเต็มๆ เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบ Hill Hold Control หรือระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ที่มีให้เห็นในรถยนต์เซกเมนต์สูงกว่านี้ / ระบบควบคุมการทรงตัว ESP ก็มีมาให้ / ระบบ TCS หรือ ระบบช่วยควบคุมรถขณะขับบนถนนลื่น / ระบบเบรกABS และ ระบบEBD หรือระบบกระจายแรงเบรก ซึ่งที่กล่าวมามีให้ทุกรุ่นตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น

และที่เด็ดไปกว่านั้นคงจะหนีไม่พ้นระบบเบรกแบบ ดิสเบรก ที่อีโคคาร์ระดับนี้มีมาให้ถึง 4 ล้อ (เฉพาะรุ่น GLX, GLX-Navi) ซึ่งโดยรวมถือว่า Suzuki Thailand กล้าลุยเต็มที่พร้อมอัดออพชั่นมาให้แบบเน้นๆ ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น (ราคา 4.99 แสนบาท) เลยทีเดียว

โดยรวมถือเป็นรถยนต์อีโคคาร์รุ่นใหม่ ที่หากถามผมตรงๆ ณ เวลานี้ ด้วยออพชั่น ด้วยสมรรถนะต่างๆ ของ New Suzuki Swift ก็สามารถพูดได้แบบไม่อายเลยว่า เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นความสดใหม่ของรูปลักษณ์ ทั้งภายใน-ภายนอก ในเรื่องความสวยก็ล้วนแล้วแต่บุคคลกันไป

ด้านสมรรถนะจากที่ได้ทดสอบการวิ่ง ขึ้นเขา-ลงเขา ได้ลองอัตราเร่งเต็มที่ ได้รองระบบต่างๆ ในการเข้าโค้ง ก็สรุปได้แบบสั้นๆ ว่า อัตราเร่งไม่แตกต่างจากเดิม แม้ขนาดเครื่องยนต์จะเล็กลง (ได้เรื่องความประหยัดมากขึ้น) พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ทำได้ค่อนข้างดีและแม่ย่ำระดับหนึ่ง ช่วงล่างเซ็ตใหม่ กระชับ หนึบ เบาะโอบสรีระได้ค่อยข้างดีจากการดีไซน์ปีกให้ยาวขึ้น ด้านห้องโดยสารก็โปร่งนั่งสบาย

ซึ่งเอารวมๆ แล้วทำมาดีกว่ารุ่นก่อนหน้าในทุกๆ ด้านเลยทีเดียว แต่หากเทียบกันกับรถยนต์ในระดับเดียวกันแบรนด์อื่นๆ เจ้า New Swift ก็ไม่ได้ขี้เหร่ แถมหากถามผมว่าถ้ามีแผนจะซื้อรถยนต์ อีโคคาร์ ในช่วงนี้ New Swift ก็เป็นตัวเลือกต้นๆ อยู่ในหัวเหมือนกันนะครับ

และเช่นเคยบทความรีวิวของผมถือเป็นความคิดเห็น และการทดสอบที่อยากรีวิวให้เพื่อนๆ ฟังถึงการขับขี่ การเปลี่ยนแปลงว่าเป็นอย่างไรบ้าง หากใครสนใจอยากให้ไปทดลอง และทดสอบด้วยตนเองอีกครั้ง เพื่อความถูกใจ และความพึงพอใจสูงสุด ขอให้บทความนี้เป็นข้อมูลในการช่วยตัดสินใจของเพื่อนๆ นะครับ …ขอบคุณครับ

ขอขอบคุณบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับทริปการทดสอบ All New Suzuki Swift ในครั้งนี้ด้วยครับ

ทางด้านราคา All New Suzuki Swift ณ ปัจจุบันมีตัวเลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย (เกียร์ CVT ทั้งหมด แต่ผมแอบถามทีมผู้บริหารมาแล้ว ว่าอนาคตอาจได้เห็นเกียร์ MT กันนะครับ อดใจรอกันนิด)

1.2L GA CVT                 ราคา 499,000 บาท

1.2L GL CVT                 ราคา  536,000 บาท

1.2L GLX  CVT              ราคา 609,000 บาท

1.2L GLX-Navi CVT       ราคา 629,000 บาท

 

ติดต่อฝ่ายขาย

ผู้จัดการสาขา สี่แยกไฟฉาย  TEL : 083-1881223

ผู้จัดการสาขา บายพาสโคราช TEL : 081-8166455

ผู้จัดการสาขา โคราชคลังออโตโมบิลส์ TEL : 081-8166455

ผู้จัดการสาขา ปากช่อง TEL : 081-5934561

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *